วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ไม่หวั่นแม้วัน(น้ำ)ท่วมมาก

  ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปี 2554 ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ความแห้งแล้ง และความหนาวเหน็บ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก นับว่าสาหัสสากรรจ์เกินบรรยาย ทำให้พี่น้องเกือบทุกภูมิภาคโลก ได้รับผลกระทบกระเทือนกันไปหมด ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ ต่างเสียหายย่อยยับไปตามๆกัน ซึ่งประเทศไทยก็หนีไม่พ้นภัยพิบัติครั้งนี้ด้วย   เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ประชาชนส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพ เกษตรเกี่ยวกับ ข้าว ผัก ผลไม้ ฯลฯ ไม่สามารถมีผลผลิตให้ประชาชน ได้อุปโภค บริโภค ตามปกติ และถนนหนทาง ไม่สามารถสัญจรได้ เหตุจากน้ำท่วนหนัก  ทำให้การ รับ ส่ง การผลิตสินค้าภาคอุตสาหกรรม ไม่สามารถผลิตสินค้าได้เช่นเดิม จนประชาชนเกิดภาวะขาดแคลนสิ้นค้าใช้สอยภายในประเทศ ยังไม่รวมคนงาน ในโรงงานหลายแสนคนก็ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ตามไปด้วยอีก เมื่อภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมไม่เหมือนเดิม ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง ต่อภาคเศรษฐกิจภายในประเทศ ต้องหยุดชะงักลงไป สร้างความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท เหตุการณ์ที่่ได้รับผลกระทบต่อๆกันนี้ช่างเหมือนกับโดมิโน่ ที่ตัวใดตัวหนึ่งล้มลง ตัวที่เหลือ ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ ย่อมล้มลงตามไป

..ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทำให้ย้อนนึกถึงการกระทำของมนุษย์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นพวกที่เห็นแก่ตัว บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า เพื่อสร้างความร่ำรวยให้เพียงไม่กี่คน โรงงานผลิตสินค้าต่างๆก็ไม่น้อยหน้า อาศัยกฏหมายสิ่งแวดล้อม ที่อ่อนแอ ไม่เข้มงวด ทิ้งน้ำเสียลงในแม่น้ำ ลำคลอง  ปล่อยอากาศเสียขึ้นสู่ท้องฟ้า จนเกิดภาวะเรือนกระจก ทำให้โลกเราร้อนขึ้นกว่าเดิม ฯลฯ ทั่วโลกส่วนมากไม่มีการบำบัดธรรมชาติบ้างเลย อาทิ การปลูกฝังให้คน รัก หวงแหวน ปกป้องธรรมชาติที่ตนได้อาศัยอยู่ โดยการช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มเติมทดแทนของเก่าที่ถูกตัด  รักษาต้นน้ำ ลำธาร  การไม่ทิ้งกากของเสีย สารเคมีลงในแม่น้ำลำคลอง ดิน อากาศ ไม่นำทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด อย่างเช่น พวก ถ่านหิน แร่ธาตุ น้ำมัน มาใช้เกินความจำเป็น อีกหลายๆอย่างที่เราสามารถช่วยธรรมชาติได้ แต่เราไม่เคย เลยที่จะทำ รึทำก็น้อยเกินไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ธรรมชาติ เลยเอาคืนบ้าง เราเลยต้องมารับผลที่เราทำกันในอดีต ต้องซอกช้ำระกำใจกันไปตามๆกัน


มีอารมณ์เล่นมาก






 
 ..ไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าในอดีตเราเคยทำลายธรรมชาติไปเยอะ แต่ต่อนี้ไป ให้พวกเรา ทั่วโลก หันมาใส่ใจกับธรรมชาติ ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่ทำลายธรรมชาติ อย่างจริงๆจังๆ เชื่อได้เลยว่า เมื่อเราต่างร่วมมือกัน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทุกรูปแแบบ อย่างเช่น เพิ่มบทลงโทษพวกทำลายธรรมชาติให้หนักกว่าเดิมปลูกจิตสำนึกรักธรรมชาติให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เขารู้สึกว่าเมื่อธรรมชาติของพวกเขา     ถูกทำลายลงแล้วเกิดผลเสียต่อโลกเราอย่างไรบ้าง จนเขาเกิดความเข้าใจ เกิดเป็นความรักธรรมชาตขึ้นมา รวมกลุ่มกันสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติ อย่างเช่น การรวมกลุ่มกันปลูกป่าทดแทน ป่าไม้เดิมที่ถูกทำลาย เป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ เมื่อพบการตัดไม้ทำลายป่า ก็แจ้งเจ้าหน้าที่จัดการได้ทันที การทำกิจกรรมอนุรักษ์น้ำ ช่วยเก็บขยะจากแม่น้ำลำคลอง ฯลฯ เชื่อได้ว่าเมื่อ เรามีเหตุที่ดี คือ ไม่ทำลายธรรมชาติจนยากแก่การเยียวยาแล้ว ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติกว่าเดิม ผลที่มวลมนุษย์จะได้รับจากธรรมชาติ นั่นคือ ธรรมชาติคงไม่ใจร้าย ไม่พิโรธทำให้เราได้เดือดร้อน น้ำตาตก เหมือนทุกวันนี้แน่นอน

เมื่อเกิดภัยน้ำท่วมแล้ว ถ้าเรามั่วแต่เสียใจ ท้อใจ ก็ยิ่งทำให้เหตการณ์แย่ลงไปกว่าเดิมอีก เพราะฉะนั้นเรามาเรียนรู้เกี่ยวกับ นวตกรรมสู้ภัยน้ำท่วมกันเหอะ  เพื่อประโยชน์ต่อเราๆท่านๆที่กำลังประสพภัยน้ำท่วมในขณะนี้กัน....เลย  

1..อาหารจานด่วน
   วิธีหุงข้าวให้กินได้นานโดยไม่บูด พวกอาหารสำเร็จรูปจำพวก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร   ปลากระป๋อง เมื่อเราจะทานต้องทำให้สุกก่อน ทานอาหารพวก บะหมี่แล้วรู้สึกไม่อิ่มท้อง อยากจะทานข้าวขึ้นมา เอาละซิ เพลานี้น้ำท่วมซะด้วยไม่สะดวกเหมือนเดิม ทำไงดี ไม่เป็นไรเรามีวิธีหุงข้าวแบบเก็บไว้ได้นานเลย มาลองดูวิธีทำกัน ..ข้าวสวยบรรจุกระป๋องแถมยังมีราคาแพงและน้อยอีกต่างหาก ไม่เป็นไร ถ้าเรามีข้าวสารอยู่แล้ว เเวลาหุงข้าวสวย ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย ซึ่งข้าวสาร 3 กระป๋อง ใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนชา ซึ่งจริงๆก็กะเอาไม่ได้ตวง --' ข้าวสวยที่หุงโดยการเติมน้ำส้มสายชูลงไป สามารถอยู่ได้โดยไม่บูดหลายวัน เคยหุงแล้วตักมาทาน แล้วปิดฝาทิ้งไว้ ลืมไป 4 วัน มาเปิดหม้อดูอีกที ก็ไม่บูด ไม่แฉะด้วย ทดลองหุงแล้วตักมาทาน แล้วปล่อยทิ้งไว้คาหม้อ 4-5 วัน มาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้วค่ะ เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะไม่บูดจริงๆ โดยเปิดฝาดูทุกวัน ข้าวที่หุงทิ้งไว้ 4-5วัน เราก็เอามาทานจริงๆ ไม่มีกลิ่นบูด ไม่แฉะ พอดีไปเจอมาในเมลล์ อาจจะเป้นประโยชน์สำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ยังไงก็ขอเอาใจช่วยผู้ประสบภัยทุกท่าน

2..เสื้อชูชีพ
   อุทกภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งที่อยู่อาศัย ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค สูญเสียทั้งทรัพย์สินเงินทอง รวมถึงมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 300 คน ซึ่งในที่นี้สาเหตุหนึ่งจากการจมน้ำเสียชีวิต พระเอกที่จะมาช่วยเรื่องการจมน้ำเสียชีวิตนี้ก็คือ   ''เสื้อชูชีพ''
  ได้รับแรงบันดาลใจจาก ''นางวัจนี วรัญญู และ นายวิญญู วรัญญู สองแม่ลูก เจ้าของที่นอนจารุภัณฑ์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี'' ซึ่งปิ้งไอเดียการทำเสื้อชูชีพจากวัสดุซึ่งมีอยู่ในต่างจังหวัดมากมาย นั่นคือ ..นุ่น'' นั่นเอง เพราะนุ่นมีคุณสมบัติพิเศษสามารถลอยน้ำได้ดีโดยไม่เปียก วิธีการทำไม่ยุ่งยาก รวดเร็ว สะดวก ด้วย แถมยังราคาถูกมาก เมื่อนำมาทำเสื้อชูชีพนุ่นซึ่งจะใช้นุ่นแค่ครึ่งกิโลกรัม ราคาประมาณ 60 บาทเท่านั้นถ้าเทียบกับเสื้อชูชีพที่ใช้กันอยู่ถือว่าถูกมาก และเมื่อหลังเลิกใช้งานก็ยังสามารถนำเอานุ่นกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ทำหมอน และที่นอนต่อได้เป็นอย่างดีอีกด้วยโดยไม่สูญเปล่าไปอีกต่างหาก ถือว่า คุ้มมมม ค่ามาก ซึ่งถูกใจคนที่ต้องการวัสดุที่ราคาถูกแถมยังพกพาความสามารถมาเต็มพิกัดอีก ^^
ซึ่งน้ำหนักนุ่นเพียง 4-5 ขีด ก็สามารถพยุงน้ำหนักตัวผู้ประสบภัยได้ถึง 80 - 100 กิโลกรัมได้อย่างสบาย วิธีทำ ...จัดการยัดนุ่นลงในถุงพลาสติกใบใหญ่ๆหน่อย เสร็จแล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อย ถ้าจะให้ดี สะดวก ควรใช้เป้สะพายของนักเรียนเมื่อได้เป้มาแล้ว ก็แค่ยัดนุนลงในเป้ซะ เสร็จแล้วจัดการปิดซิบกันน้ำเข้าให้เรียบร้อย แค่นี้เองก็จะได้เป้ชูชีพไว้ใช้งานแล้ว .. ( ง่ายจัง ) ส่วนการใชเป้สะพาย ควรจะสะพายเป้ไว้ด้านหน้าจะช่วยพยุงตัวได้ดีกว่าด้านหลัง

3..ส้วมปลดทุกข์
   น้ำท่วมซะขนาดนี้ ระดับหน้าอก เฮ้..เศร้า T-T จะระบายทุกข์หนัก ? จะอะไรซะอีกนอกจาก... ใช่แล้วการจะ อึ ฉี่ ในยามที่น้ำท่วมเนี่ย แสนสาหัสเหลือเกิน มาลองดูวิธีการทำ ส้วมแบบจำเป็นกันเหอะ

"สุขากระดาษ" เป็นนวัตกรรมที่ ออกแบบและผลิตโดย "เอสซีจี เปเปอร์" ในเครือเอสซีจี ใครคิดผลิตก็ช่างเหอะ ถ้าเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในยามที่เกิดเหตการณ์น่ำท่วมแบบนี้ ก็ต้องลองทำมาใช้ดูแล้ววว ซึ่งสุขากระดาษนี้ผลิตจากกล่องกระดาษลูกฟูก มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาได้ โดยก่อนใช้สุขากระดาษจะถูกทำให้เป็นกระดาษลูกฟูกแบนราบ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก พร้อมชุดถุงดำ (ใช้บรรจุ สิ่งปฏิกูล) และกระดาษชำระ เมื่อต้อง การใช้งานก็สามารถนำมาประกอบ ขึ้นรูปตามคู่มือคำอธิบายที่บรรจุไว้ภายใน สามารถใช้ขับถ่ายได้ทั้งหนัก-เบา

ขั้นตอนการประกอบสุขากระดาษ ก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลา 5 วินาทีก็เสร็จคือ

1) ประกอบกระดาษเป็นโถสุขา มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและมีรู ตรงกลางไว้นั่งขับถ่าย

2) นำถุงดำบรรจุลงมาในรูปตรงกลางเพื่อรองรับสิ่งปฏิกูล เมื่อ ขับถ่ายเสร็จก็มัดปากถุงให้แน่นเพื่อรอนำไปกำจัดเมื่อน้ำลด และเพื่อยืดอายุการใช้งานสุขากระดาษควรนำถุงดำมาหุ้มไว้ด้านล่างด้วย

ส่วนเรื่องความแข็งแรงไม่ต้องเป็น ห่วง เพราะทดสอบแล้วว่ารับน้ำหนัก คนนั่ง 200 กิโลกรัมได้สบาย ๆ

กล่องกระดาษขนาดใบใหญ รึจะเป็นถังน้ำ สี่เหลี่ยมพลาสติก ก็สามารถนำมาใช้แทนได้ ขอให้มีถุงดำก็แล้วกัน น่าจะหาได้ไม่ยาก









 

















มาดูวิธีดูแลสุขภาพช่วงน้ำท่วม 10 ประการ กันเถอะ
  
1. หมั่นดูแลความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะเท้า ซึ่งต้องล้างด้วยสบู่และเช็ดให้แห้ง หลังการเดินลุยน้ำ และล้างมือบ่อยๆ หรือใช้เจลล้างมือแทน 

2. กรณีต้องเดินลุยน้ำ ควรใส่รองเท้าบูท และทายาป้องกันน้ำกัดเท้าทุกครั้งก่อนลงน้ำ และมีไม้ตีน้ำเป็นระยะเพื่อไล่สัตว์มีพิษที่อาจอยู่บริเวณที่เดิน 

3. ระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าตา เพื่อป้องกันโรคตาแดง

4. การดูแลภาชนะใส่อาหารและช้อนส้อมให้สะอาดป้องกันโรคทางเดินอาหาร

5. เลือกรับประทานอาหาร ถ้ามีกลิ่นไม่ดี ใกล้บูด ไม่ควรรับประทาน

6. ระวังบุตรหลานไม่ให้เล่นน้ำ หรืออยู่ใกล้น้ำ

7. กรณีเจ็บป่วย เช่น เป็นหวัด ตาแดง ควรเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดต่อ ล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัย 


8. ป้องกันกรณีไฟฟ้ารั่วและไฟชอร์ต ถ้ามีน้ำท่วมถึงปลั๊กไฟต้องตัดสะพานไฟทุกครั้ง 

9. ใช้ถุงทรายอุดปิดโถส้วมป้องกันการไหลย้อน ใช้สุขาชั้น 2 หรือใช้ถุงดำเป็นส้วมสนาม แล้วมัดปิดเก็บไว้กำจัดภายหลังน้ำลด อาจใส่ปูนขาว หรือ EM ก่อน 

10. ฝึกการคลายเครียดด้วยตนเอง เช่น การพูดระบายความเครียด ฟังเพลงคลายเครียด ฝึกการหายใจคลายเครียด เป็นต้น 

*ท้ายสุด 
    ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว เชื่อได้เลยว่าหลายๆท่านคงได้ยินคำนี้บ่อย คนเราถ้ามีจิตใจที่เข้มแข็ง ร่างกายก็ดูจะเข้มแข็งไปด้วย แต่ยามที่จิตใจเราอ่อนแอ ร่างกายเราก็อ่อนแอไปด้วย เขาบอกว่าการชนะใจตนเองเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ใจคิดสั่ง ส่วนร่างกายรับสนอง ยามเมื่อเราประสบภัยอันตรายใดๆแล้วเรา มีใจที่ประกอบด้วย สติ ปัญญา ไม่ท้อถอยต่อปัญหา เชื่อได้เลยว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงสำเร็จลงได้ด้วยดี แม้ว่าปัญหานั้นจะร้ายแรงแค่ไหน ทุกๆปัญหาย่อมมีทางออกให้เสมอ ขอเพียงเรามี สติ และปัญญา ย่อมเจอทางออกของปํญหานั้นแน่นอน ขอเพียง มีใจที่ไม่ท้อ เมื่อเจอปัญหาเท่านั้น   ขอฝากคำคมของท่าน ว.วชิรเมธี
เพื่อสะกิดใจให้ทุกๆ สู้กับปัญหาต่างๆในโลกใบนี้....อย่างทรนง องอาจ

รถทุกคันล้วนมีเบรกรถทุกคันล้วนมีท่อไอเสียคนทุกคนต้องมีเบรกคือสติต้องมีท่อไอเสียคือการปล่อยวาง
ดาบที่ดีต้องมีฝัก ความสามารถที่ดีต้องมีจริยธรรม
รอยเท้าแรกที่เหยียบบนดวงจันทร์ไม่ใช่รอยเท้าของมนุษย์ แต่เป็นรอยเท้าแห่งจินตนาการ
คนขุดบ่อน้ำก็ลงต่ำอยู่ในดิน คนก่อกำแพงก็ขึ้นสูงตามกำแพงที่ก่อ ฉันนี้ฉันใดคนทั้งหลายก้เป็นเช่นนั้น จะสูงจะต่ำขึ้นอยู่กับการกระทำของตน
บิล เกตต์ เรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
ที่สุดของความรักคือรักโดยไม่ครอบครอง ที่สุดของการให้คือให้โดยไม่หวังผล ที่สุดของทานคืออภัยทาน ที่สุดของคนคือการเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข 

(ความทุกข์ไม่เคยยึดติดเรา มีแต่เราต่างหากที่ยึดติดความทุกข์ ความสุขไม่เคยไปจากใจเรา มีแต่เราต่างหากที่ไม่เคยถนอมมันไว้ในใจของเรา)


  





















''การวิ่งแสวหาความสุขมาปรนเปรอจิตใจนั้นจะหาเท่าไรก็หาไม่เจอ เพราะมั่วแต่วิ่งแสวงหาความสุข-ข้างนอก โดยลืมนึกไปว่าความสุขแท้ที่จริงนั้น มันอยู่ที่จิตตน นั่นเอง ความสุขแค่เอื้อมนั้นยังไกล ความสุขที่ใจ ไม่ต้องเอื้อม คว้าได้เลย ท่าน ''